โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์
(ขันมาอนุราษฎร์) ตั้งอยู่ที่ -
หมู่ที่ ๒ ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒ เดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เดิมชื่อ “โรงเรียนประชาบาลตำบลคอกกระบือ
๑” ผู้ดำรงตำแหน่งครูใหญ่คนแรก คือ นายชุบ
ดีศิริ จนกระทั่งในสมัยของนายเฉลิม
พิบูลเวช ดำรงตำแหน่งครูใหญ่คนที่ ๘ ได้พิจารณาเห็นว่าสภาพของโรงเรียนเล็กมากไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี จึงดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนขึ้นใหม่โดยมี นายขัน เกิดชีพ และ นางมา หรุ่นเกิด ซึ่งเป็นน้องสาวบริจาคทรัพย์ร่วมกับราษฎรในท้องถิ่นและได้เงินสบทบจากทางราชการ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่ ๒ ชั้น ๖ ห้องเรียน และได้เปิดป้ายขนานนามใหม่ว่า “โรงเรียนวัดราษฎร์รังสรรค์ (ขันมาอนุราษฎร์)” เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๓ และในปีการศึกษา ๒๕๓๕
ซึ่งเป็นสมัยของนายบุญเลิศ ทับแสงทอง
ผู้บริหารโรงเรียนคนที่ ๑๑
ได้พิจารณาเห็นควรนำโรงเรียนเข้าโครงการขยายโอกาสทางการศึกษาโดยเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ในปีการศึกษา ๒๕๓๙ โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จำนวน
๒,๓๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช. ๒/๒๘ จำนวน
๑๔ ห้องเรียน ประกอบกับทางวัดราษฎร์รังสรรค์ ต้องการปรับพื้นที่วัด
และโรงเรียนให้เป็นสัดส่วน จึงให้ย้ายไปสร้างในที่ใหม่
ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงเรียนในปัจจุบัน
โดยได้รับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนในการก่อสร้างเป็นเงิน ๖
ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จ เมื่อ
เดือนมิถุนายน ๒๕๔๐ ทำให้โรงเรียนประสบกับสภาพที่ไม่เป็นสัดส่วน
เนื่องจาก อาคารเรียนอยู่กันคนละแห่ง คือส่วนหนึ่งยังอยู่ในบริเวณวัด และอาคารใหม่อยู่อีกที่หนึ่ง เป็นต้น จนกระทั่งในสมัยของ นายสถิตย์ชัย วรานนท์วนิช ได้ตระหนักในปัญหาดังกล่าว จึงได้ขอความร่วมมือจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน และองค์การบริหารส่วนตำบลคอกกระบือ ในการก่อสร้างอาคารเรียนแบบ ๓๑๘ ล พิเศษ ๔ ชั้น
๑๘ ห้องเรียน สร้างเสร็จในปีการศึกษา ๒๕๔๙
และในปีงบประมาณ ๒๕๕๐
โรงเรียนได้รับงบประมาณจากราชการในการก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช. ๒/๒๘
๓ ชั้น ๑๘
ห้องเรียน จำนวน ๗,๙๐๒,๐๐๐บาท และทางโรงเรียนได้หาเงินสมทบอีก ๒๖๖,๓๒๐
บาท รวมค่าก่อสร้าง
ทั้งสิ้น ๘,๑๖๘,๓๒๐ บาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อ
เมษายน ๒๕๕๑ และในปีการศึกษา ๒๕๕๑
โรงเรียนจึงได้ทำการย้ายนักเรียนมาอยู่ในบริเวณเดียวกัน ในปี พ.ศ.
๒๕๕๒
โรงเรียนได้ทำการก่อสร้างป้ายชื่อโรงเรียนโดยได้รับเงินจากการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา
จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
และทำการก่อสร้างรั้วด้านหน้าโรงเรียนความยาว ๕๔
เมตร
โดยได้รับเงินจากการบริจาคของชุมชน
เป็นจำนวนเงิน ๓๒๔,๐๐๐ บาท
และได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวนเงิน
๕๖๔,๐๐๐ บาท เป็นค่าก่อสร้างส้วมนักเรียน แบบ สปช ๖๐๕/๔๕ จำนวน ๑๐ ที่นั่ง และก่อสร้างบ้านพักครูแบบเรือนแถว ๒ ชั้น ครึ่งตึก ครึ่งไม้ โดยใช้วัสดุเก่าและงบประมาณเงินอุดหนุน จำนวน
๑๒ ห้อง และทำการก่อสร้างโรงอาหารขนาด กว้าง ๑๓ เมตร
ยาว ๓๒ เมตร
โดยรื้อย้ายวัสดุจากอาคารเอนกประสงค์เดิมมาใช้และงบประมาณเงินอุดหนุน จำนวน
๑ หลัง ปีการศึกษา ๒๕๕๓
ได้รับงบประมาณในการปรับปรุงจัดทำห้องประชุม ขนาด กว้าง
๑๐ เมตร ยาว ๔๕ เมตร เป็นเงิน ๗๐๐,๐๐๐ บาท
และได้งบปรับปรุงพัฒนาอาคาร ปูกระเบื้องพื้นห้องเรียนปฐมวัย ๖ ห้อง เป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ปีการศึกษา ๒๕๕๔ได้รับงบจากการเคหะแห่งชาติ ในการสนับสนุนถนนเข้าโรงเรียน
พื้นปูนหน้าอาคาร สปช.๒/๒๘ สนามกีฬาเป็นเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และรับงบปูพื้นกระเบื้องอาคารสปช.๒/๒๘(อาคารสีส้ม) จำนวน
๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยใช้งบอุดหนุนของโรงเรียนสมทบ จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๐๐,๐๐๐ บาท
นอกจากนี้ยังจัดซื้อรถตู้สำหรับใช้ในราชการจำนวน ๑ คัน โดยใช้เงินนอกงบประมาณ
(สหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน) จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
และเงินรายได้สถานศึกษา จำนวน๑,๒๐๐,๐๐๐
บาท รวมเป็นเงิน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ในปีการศึกษา ๒๕๕๕
ทางโรงเรียนได้ทำการก่อสร้างศาลาเรือนไทย
จำนวน ๗ หลัง โดยใช้ไม้เก่าที่มีอยู่ ค่างบประมาณก่อสร้างหลังละ ๒๕,๐๐๐ บาท
รวมเป็นเงิน ๑๗๕,๐๐๐ บาท
ปัจจุบัน
โรงเรียนยังมีสิ่งขาดแคลนและต้องดำเนินการเร่งด่วนในหลายๆสิ่ง ได้แก่
รั้ว ห้องน้ำห้องส้วมนักเรียน ที่ดื่มน้ำ
อ่างล้างหน้า อาคารหอประชุม ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ร้านค้าสหกรณ์โรงเรียน ถนนภายในบริเวณโรงเรียน ทางเดินเท้า
ลานเอนกประสงค์ สนามกีฬา สนามเด็กเล่น
สวนหย่อม แหล่งเรียนรู้ โรงจอดรถ
เป็นต้น |